หลังจากที่พยายามเดินหาตามร้านแถวคลองถมอยู่นานสองนาน ก็ไม่พบว่ามีร้านค้าไหนขายเครื่องแบบที่ว่า ซ้ำยังโดยคนขายหลายคนตอบกลับเหมือนกับว่ามันไม่มีเครื่องอะไรเทือกนั้นหรอก ความจริงแล้ว หูฟังที่เล่น mp3ได้นั้นมีขายอยู่ อย่างเช่นของ SONY แต่สนนราคาค่าตัวมันผมคิดว่าแพงเกินไปสำหรับการที่ผมจะเอามาใช้งานแค่ฟังภาษา เลยอยากได้เครื่องที่ราคาไม่แพงมากนัก แต่ก็ยังไม่แพร่หลายในท้องตลาด อย่ากระนั้นเลย ลงมือ D.I.Y.(Do It Yourself) ซะเลยดีกว่า
แพลนแรก ผมตั้งใจหาหูฟังที่ครอบหูแบบแขวนไปข้างหลังที่ไม่แพงนัก(แบบสำหรับเล่นกีฬา) และทำการตัดต่อสายไฟเพื่อให้มันเชื่อมเข้ากับเครื่องเล่น mp3ขนาดเล็กๆ โดยให้สายไฟมาพันรวมกันที่ด้านเดียว ข้อสำคัญคือ ด้านนอกของครอบหูฟังต้องค่อนข้างแบนเรียบ ผมไปเจอหูฟังแบบที่ว่านี่ที่เซียร์รังสิต ในราคา 150 บาท โชคดีอีกส่วนหนึ่งก็คือสายหูฟังมันโผล่ออกมาจากด้านเดียวอยู่แล้ว ก็คงไม่ต้องตัดสายบัดกรีแจ็คใหม่ให้เสียเวลา
ส่วนตัวเล่น mp3 ครั้งแรกผมเห็นเจ้าเครื่องเล่น mp3 แบบที่ต้องการที่อนุสาวรีย์ชัยฯ ติดราคาอยู่ 350 บาท แต่ตั้งใจอยู่ว่าจะไปเดินหาของที่คลองถม ผมลงรถโดยสารแถบบ้านหม้อ เพื่อเดินดูสินค้าอิเลคทรอนิกส์สำหรับพร้อเจ็คอื่น และก็เห็นไอ้เจ้า mp3 แบบเดียวกันนี้ในราคา 270 บาท สุดท้ายผมมาได้เจ้า mp3 อย่างเดียวกันนี้ในราคาเพียง 250 บาท โดยไม่ได้ต่อรองราคา ดูจากราคาก็คงต้องเป็นของจากเมืองจีนโดยไม่ต้องสงสัย และก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับคุณภาพเลย สินค้าที่คลองถมยังถูกอยู่เสมอ เมื่อเทียบกับตลาดนัดจตุจักรที่ราคาเปลี่ยนแปลงไปมากในหลายปีมานี้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากนิยมเดินทางไปที่นั่น เพื่อซื้อสินค้าเป็นของฝากและกลับไปจำหน่าย
เมื่อมาถึงบ้านแล้วแกะออกดู มันสร้างความประหลาดใจให้ผมพอควรในราคา 250 บาทนี้ โห นอกจากตัวเครื่องเล่น mp3 ขนาดเล็กๆ นี้แล้ว มันยังมี วอลล์ชาร์จ 220โวลท์ ที่ขั้วออกเป็น USB แบบพับขาปลั๊กได้ หูฟังสเตริโอหนึ่งเส้น แล้วก็สาย USB (ที่ใช้ได้ทั้งโหลดไฟล์จากคอมพิวเตอร์ ชาร์จไฟจามคอมฯ แล้วก็ต่อชาร์จไฟจาก วอลล์ชาร์จ)มาให้ด้วย จีนทำได้จริงๆ ลองคิดดูซิว่าต้นทุนจากโรงงานจะเป็นเท่าไร ในขณะที่ต้องผ่านพ่อค้ามาหลายมือ
mp3 ที่ได้นี้ มีแต่ตัวเล่นเฉยๆ ไม่มีหน่วยความจำ ผมจำเป็นต้องไปซื้อหน่วยความจำที่เป็น Micro SD และก็เลยไปซื้อที่ห้างฟอร์จูนซึ่งอยู่ใกล้ที่พัก ได้ Micro SD 2 GB จากร้านที่ซื้อประจำซึ่งอยู่ที่ชั้นสาม ในราคา 200 บาท ร้านนี้สินค้าจะติดราคาตายตัว และจัดได้ว่าถูกหรือไม่แพงนักเมื่อเทียบกับอีกหลายร้าน (ภายหลังผมมาเจอ Micro SD ยี่ห้อเดียวกันนี้ในราคาเดียวกันที่ Telewiz แถมยังมี adapter SD ให้อีกด้วย)
ไ้ด้ memory มาปั๊ป ผมลองโหลดไฟล์ mp3 เข้าเครื่องผ่านสาย USB ทันที การโหลดไฟล์นั้นค่อนข้างช้ากว่าเครื่องเล่นตัวอื่นๆ ที่ผมมี พอโหลดไฟล์เข้าเครื่องก็เปิดเล่นได้ทันที เข้าใจว่ามันจะชาร์จไฟให้ด้วย เสียงที่คาดว่าจะเบาเกินไป ก็อยู่ในระดับดังพอสมควร แต่ไม่ดังมากนัก แม้จะเพิ่มโวลุ่มจนสุด คุณภาพเสียงผมไม่ได้คาดอะไรอยู่แล้ว ก็เลยไม่ขอพูดถึง
ผมพันสายหูฟังของหูฟังตัวใหม่รอบก้านหูฟังเพื่อเก็บสาย และตัดและติดเทปหนามเตยเข้ากับหูฟังด้านหนึ่ง และ ตัวเล่น mp3 โดยจัดวางตำแหน่งที่คิดว่าเหมาะสมก่อนจะลอกเทปติดลงไป การใช้เทปตุ๊กแกนี้จะช่วยให้ผมขยับปรับเปลี่ยน หรือแยกชิ้นส่วนได้ง่ายขึ้น เทปหนามเตยหรือที่ผมเรียกเอาเองว่าเทปตุ๊กแกนี้ มีชื่ออย่างเป็นทางการในภาษาอังกฤษว่า Velcro Tape
รวมเบ็ดเสร็จ 620 บาท (เสียเทปตุ๊กแกไปประมาณ 20 บาท และไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ) ผมได้ mp3 player headphone สตึๆ มาอันหนึ่ง ความตั้งใจแต่แรกว่าจะใช้ปืนกาวยิง หรือใช้ซิลิโคนใสทาสายหูฟังให้ติดกับก้านมันก็ต้องระงับไว้ก่อน ว่าจะลองใช้ดูอีกสักพัก เนื่องจากหลังจากทดลองใช้งานดูพบปัญหาเรื่องการเลือกไฟล์เพลงที่จะเล่น มันต้องเลื่อนไปทีละเพลง และมันไม่มีหน้าจอสำหรับดูชื่อเพลง ทำให้ไม่สะดวกนัก ผมดูจากในอินเอตร์เนตก็พบเครื่องเล่นตัวอื่น รูปร่างแบบเดียวกัน แต่มีหน้าจอแสดงชื่อเพลงด้วย ถ้ามีเวลาหรืออยากใช้งานเจ้านี่ต่อ ผมคงหามาเปลี่ยนอีกทีหนึ่ง ส่วนอย่างอื่นๆ แล้วสำหรับการใช้งานในการฟังภาษาก็ไม่มีปัญหาอะไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น